แฟรนไชส์เบเกอรี่สัญชาติญี่ปุ่น เป็นที่นิยมของลูกค้าชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ที่ตั้งในศูนย์การค้า หรือแบบ Stand alone สำหรับแบรนด์แฟรนไชส์เบเกอรี่ที่น่าสนใจที่เราจะหยิบมาพูดถึงในวันนี้คือ Bake a Wish กับแบรนด์เบเกอรี่ญี่ปุ่นอันดับ 1 ของเมืองไทย ด้วยเบเกอรี่กว่า 40 ชนิด เช่น ครีมพัฟ(ชูครีม) ซอฟท์ครีมเค้ก(เค้กญี่ปุ่น) ขนมปัง คุ้กกี้
แม้ว่า Bake a Wish จะเป็นแบรนด์พรีเมี่ยมที่เป็นแบรนด์เบเกอรี่นำเข้าออรินอลแล้ว ตามที่ทาง Bake a Wish ระบุว่า ตลาดเค้กสไตล์ญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งตลาดเบเกอรี่ 40% จากตลาดเบเกอรี่ แต่การปรับกลยุทธ์การตลาดต่อเนื่อง และการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภค เป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์มองข้ามไม่ได้
ซึ่งเราตั้งข้อสังเกตกลยุทธ์ของ Bake a Wish ไว้ 2 ข้อที่น่าสนใจ คือ
1.การปรับกลยุทธ์ สตาร์ทราคาขายเริ่มต้น 10 บาท
ซึ่งกลยุทธ์ Pricing Strategy ยอมลดราคา เพื่อเพิ่มมาร์จิ้นหรือกำไรต่อชิ้น สุดท้ายจะทำให้ผลประกอบการบริษัทเติบโตกว่า การขายแพงๆ แต่ลูกค้าเข้าน้อย แบรนด์ที่มีสตอรี่หลายๆ แบรนด์ แม้จุดเริ่มต้นจะเป็นแบรนด์พรีเมี่ยม ก็ใช้ Pricing Strategy ทั้งการปรับขนาดสินค้าและการลดราคา เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เพราะอย่าลืมว่า การมียอดขายเข้ามาประจำ สำคัญกับธุรกิจอาหาร โดยเฉพาะธุรกิจเบเกอรี่ ที่มีเป็นจำนวนมากในตลาด
2.กลยุทธ์ขายแบบบุฟเฟต์
โดยทาง Bake a Wish ออกโปรโมชั่น บุเฟเฟต์ 280 บาท สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยที่ชอบรับประทานบุฟเฟต์ โดยในตลาดเบเกอรี่ถือว่ายังมีแบรนด์ทำบุฟเฟต์น้อย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านเบเกอรี่ทั่วไปมากกว่า ซึ่งการทำการตลาดแบบบุฟเฟต์ เป็นเทคนิคการเพิ่มกำไร
เช่นเดียวกับการลดราคาสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ เพราะการปรับกลลยุทธ์ให้เข้ากับพฤติกรรมสร้างไดนามิคให้กับสินค้า ในกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่เคยรับประทาน Bake a Wish มาก่อน ก็ทดลองรับประทานได้ง่าย หากติดใจและมีการกลับมาซื้อซ้ำ ก็จะส่งผลต่อยอดขายของแบรนด์อย่างแน่นอน
ที่มา :
https://web.facebook.com/bakeawish.japanesehomemadecake/?_rdc=1&_rdr
Comments