สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางที่เพิ่งเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือ Rojukiss บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS ที่สาวๆ น่าจะคุ้นเคยกันดีกับ Core Value สินค้านำเข้าจากเกาหลี แต่ราคาจับต้องได้ และเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ประสบความสำเร็จจากการวางขายสินค้าใน 7-Eleven โดยปัจจุบัน Rojukiss ประกอบธุรกิจ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงผิว โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย ภายใต้แบรนด์ Rojukiss, PhDerma, Best Korea และ Sis2Sis
สินค้าขายดี หรือ Product Hero ทำให้แบรนด์ Rojukiss ติดตลาดคือ เซรั่มโรจูคิส ทำให้ผลประกอบการปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 167,992,157 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่ากำไรสุทธิจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 แต่ถ้าเทียบกับสินค้าเครื่องสำอางที่เทรดอยู่ในตลาดหุ้น ถือว่าโรจูคิสมีความได้เปรียบ ทั้งในแง่สินค้าที่เจาะ Mass Market และการรับจ้างผลิต (OEM) สำหรับเจาะตลาด Business-to-Business (B2B) ส่วนช่องทางการจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ของ KISS วางจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ และช่องทางการตลาดที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ คือ การขยายช่องทางการจำหน่ายตรงไปยังผู้บริโภค หรือ Direct-to-consumer (D2C)
ถ้าถามว่าอนาคตของโรจูคิส หลังไอพีโอ จะไปทางไหน?
ตามข้อมูลของ Nielsen ปี 2562 ระบุว่า Value Proposition มีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเซรั่ม, ผลิตภัณฑ์ดูแลสิว, ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย ที่มียอดขายเชิงมูลค่าเป็นอันดับ 1 ในประเทศ เทียบในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของผู้หญิง (Women Facial Moisturizer) และในกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง แบรนด์ Sis2Sis ทางบริษัทก็ปรสบความสำเร็จจากการปั้นแบรนด์ “ลิปสติกแบบซอง” ซึ่งเป็นการปรับแพ็คเกจจิ้งแบบใหม่ เหมาะสำหรับการเดินทาง และราคาจับต้องได้ เพียงแค่ราคา 49 บาท ซึ่งถือเป็นการจับตลาดแบบ Micro Scale ซึ่งเป็น Red Ocean ในปัจจุบัน
ที่มา :
https://www.rojukissinternational.com/th
留言