top of page
Prawta

OR ทำการตลาดอย่างไร ทำให้คนไม่เล่นหุ้น ถึงอยากเปิดพอร์ตซื้อหุ้นได้


โดยปกติแล้วในช่วงการเสนอหุ้นเสนอขายเป็นครั้งแรกให้ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) หากไม่ใช่หุ้นที่น่าสนใจจริงๆ มักจะไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยเท่าที่ควร แต่กรณีดังกล่าวใช้ไม่ได้กับหุ้นบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่เพิ่งเข้าเทรดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ปัจจุบันยังได้รับความน่าสนใจจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยอย่างต่อเนื่อง


สำหรับความฮอตของหุ้น OR ต้องบอกว่าไม่ได้เกิดจากการที่นักลงทุนแห่ให้ความสนใจ แต่เป็นเพราะการเข้าตลาดของนักลงทุน OR ล้อกับภาพรวมการลงทุนของนักลงทุนทั่วโลกในขณะนี้พอดี ตามที่ CNBC ระบุว่า ในสถานการณ์ Covid-19 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบ แต่เป็นปีที่นักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากภาวะการลงทุนของนักลงทุนรายย่อยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ปัจจัยเฉพาะของ OR คือ เป็นบทเรียนจากการนำหุ้น PTT เข้าตลาดหุ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว หรือในปี 2544 ที่ประชาชาติออนไลน์ระบุว่า การจัดสรรหุ้น PTT ในอดีตขายหุ้นไอพีโอหมดภายในเวลา 1.17 นาที ภายหลังประชาชนไปต่อแถวหน้าธนาคารเพื่อจองซื้อหุ้น PTT ตั้งแต่ตี 5 แต่ปรากฏว่ามีประชาชนจองทันเพียงแค่ 1-2 คิวเท่านั้น ทำให้ “การจัดสรรหุ้น OR” ในครั้งนี้ จึงปรับรูปแบบใหม่คือให้จองผ่านธนาคารที่เข้าร่วม และจัดสรรหุ้นแบบ Small Lot First หรือจัดสรรให้นักลงทุนรายย่อยก่อน โดยในรอบแรกจะจัดสรรหุ้นให้ 300 หุ้น และเพิ่มรอบละ 100 หุ้น ซึ่งผลปรากฎว่านักลงทุนรายย่อยถือหุ้น OR ได้สูงสุดไม่เกิน 4,500 หุ้น

ซึ่งถ้าถามว่าอะไรทำให้หุ้น OR น่าสนใจ และเปลี่ยนรูปแบบการเข้าลงทุนของรายย่อย ที่ขอมีหุ้น OR ก่อน แล้วค่อยเปิดพอร์ตหุ้นทีหลัง

อย่างแรกคือ ความได้เปรียบของ OR เป็นธุรกิจที่อยู่ใกล้ตัวคน เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเข้าปั๊ม PTT และเคยดื่มเครื่องดื่มจากร้านกาแฟอเมซอน เราจะเห็นกระดาษที่จับแก้วกาแฟที่เขียนว่า “ถ้าชอบกาแฟเรา อยากเป็นเจ้าของเราด้วยไหม” #หุ้นโออาร์ ซึ่งถือว่าตีโจทย์แตก สามารถนำ Marketing+Investing ได้อย่างน่าสนใจ เมื่อเทียบกับหุ้น KEX หรือเคอรี่ที่เข้าไอพีโอก่อนหน้า ที่กว่าคนจะรู้ว่าหุ้นเคอรี่จะเข้าตลาด ก็จองไม่ทันแล้ว แต่ OR ใช้ร้านกาแฟอเมซอนเป็นตัวดึงดูด แม้ว่าธุรกิจ OR ทั้งหมด จะไม่ได้หมายถึงแค่ร้านกาแฟอเมซอนเท่านั้น


ยิ่งทำการตลาดให้ใกล้ตัวผู้บริโภคเท่าไหร่ บวกกับทำให้ผู้บริโภครู้สึก “เป็นเจ้าของร่วม” ก็ยิ่งทำให้ OR สามารถดึงฐานนักลงทุนรายย่อยได้ ทำให้หลายๆ คนหันมาสนใจการลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา ที่ OR ใช้การตลาดเจาะคน ให้เรื่องหุ้นที่ดูเหมือนจะต้องใช้เวลาศึกษา เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการลงทุน *ทั้งนี้การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนจะต้องศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน ที่มา : https://www.cnbc.com/2021/02/13/why-retail-investors-are-here-to-stay.html?recirc=taboolainternal https://www.prachachat.net/finance/news-598116 https://www.set.or.th/set/mainpage.do?language=th&country=TH

Comments


bottom of page