โมเดล Subscribtion เป็นที่คุ้นเคยกันในธุรกิจแนวนิตยสาร หนังสือพิมพ์ โทรคมนาคม หรือแอฟพลิเคชั่นสตรีมมิ่งทั้งหลาย โดยเป็นระบบที่ผู้ใช้ต้องชำระค่าบริการเหมาจ่ายล้วงหน้า แบบรายปี รายเดือน
จริง ๆ แล้วโมเดล Subscription นั้นอยู่คู่กับเรามาอย่างยาวนาน แต่เราอาจจะไม่ทันได้สังเกต และยังไม่แพร่หลายอย่างเท่าทุกวันนี้ อย่างเช่น สมัครเป็นสมาชิกหนังสือพิมพ์ หรือแม้กระทั่งนมที่มาส่งที่บ้านในทุกเช้าก็เป็น โมเดล Subscription เหมือนกัน
แต่ในยุคสมัยนี้ที่โลกอินเตอร์เข้ามาเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเรา โมเดล Subscription ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบ แอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่ง เช่น Netflix, Spotify, Youtube Premium และอีกหลาย ๆ แบรนด์ในอนาคตที่จะนำไปปรับใช้กับธุรกิจ
โมเดล Subscription มีกลยุทธ์ 3 รูปแบบด้วยคือ
1. Subscription for replenishment
เป็นการ Subscription ในสินค้าที่ต้องใช้เป็นประจำทุกวัน ทุกเดือน
2. Subscription for curation
เป็นการ Subscription ที่จะได้รับการดูแล และจัดหาของให้ลูกค้าตาม Personalize ของแต่ละคน
3.Subscription for access
เป็น Subcription ที่ขายการเข้าถึง เพื่อได้รับสิทธิพิเศษบางอย่างมากกว่าคนอื่น ๆ
แบรนด์ต่างประเทศมากมาย เริ่มหันมาใช้โมเดลนี้กันมากขึ้น
แบ่งออกเป็นแบรนด์ที่เป็น Physical และ Digital
1.แบรนด์ Physical อะไรบ้างที่นำไปปรับใช้
Dollar Shave Club - มีโกนหนวด
Amazone Subscription and Save - อาหารและของใช้ในบ้าน
Barkbox - อาหารและผลิตภัณฑ์สุนัข
2.แบรนด์ Digital อะไรบ้างที่นำไปปรับใช้
New York Times - หนังสือพิมพ์
Fobes - นิตยสาร
Netflix - ดูหนัง
Spotify - ฟังเพลง
ซึ่งโมเดล Subscription นี้มีตัวเลขของการเติบโตที่น่าสนใจมาก ๆ ในช่วงระหว่างปี 2011-2016 ธุรกิจแบบ Digital มีการเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 100% จากปี 2011 มีขนาดอยู่ที่ 57 ล้านดอลล่า โอขึ้นมาเป็น 2.6 พันล้านเหรียญดอลล่า
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าแบรนด์ของคุณจะเป็นแบบ Physical หรือ Digital ก็สามารถใช้โมเดล Subscription ได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าคุณต้องลองเช็ค Insight และความต้องของฐานลูกค้าให้แน่ใจว่า โมเดลนี้จะตอบโจทย์ลูกค้าจริง ๆ หรือไม่ แล้วสามารถนับไปปรับใช้ในรูปแบบใดได้บ้าง มนุษย์กลยุทธ์รับรองว่าถ้าสามารถนำโมเดลนี้ไปใช้ได้จริงธุรกิจของคุณจะมียอดการเติบโตของธุรกิจอย่างก้าวกระโดดแน่นอนครับ
ข้อมูล
The Secret Sauce
Kommentare